ยอมรับมุมมองชีวิตเปลี่ยนเลิกใช้ชีวิต “ฟุ่มเฟือย”
โดนผลกระทบเต็มๆ จนแทบทรุด เตชินท์-จิรัฐชัย ชยุติ นักร้องหนุ่ม-เจ้าของกิจการร้านอาหารญี่ปุ่น “เนตะฟิชแอนด์มีท” เดอะสตรีท รัชดา ฮึดสู้หลังสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศดีขึ้น ร้านอาหารกลับมาเปิดขายได้เหมือนเดิม พร้อมทำให้มุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไป
เตชินท์ เล่าให้ฟังว่า “มันแย่มาก ช่วงก่อนเข้าโควิดมีข่าวที่จีนก่อน คนก็กลัวเริ่มไม่เดินห้าง ขายได้ 30% กลายเป็นยอดขายน้อยลง เสาร์-อาทิตย์ยอดขายลดฮวบไปเลย เริ่มคิดลูกน้องเราจะยังไง ปรากฏผ่านไปต้องทำอะไร เลยนึกถึงแซลมอนออนไลน์ขึ้นมา”
ช่วงแรกๆต้องปิดห้างแต่เราแท้อขนาดไหน?
“ท้อนะครับ นอนไม่หลับทุกวัน เห็นหน้าลูกป๊าป๋า มองหน้าลูกผมน้ำตาจะไหลไม่เคยคิดเหตุการณ์นี้จะเกิด เราคิดแค่ว่าอยากเลี้ยงลูกให้มีความสุขที่สุด ผมดราม่ามากตอนนั้นทำยังไง ลูกน้องเอายังไงดี ไหนจะภาระหลังบ้านอีก หาทางออก เครียดมาก พอทำแซลมอนออนไลน์ เริ่มเห็นช่องทาง ไม่ได้ตอบโจทย์ 100% แค่ประคับประคอง ดีในแบบวิกฤติแต่รายได้ไม่เท่าเปิดร้าน และเราได้เห็นศักยภาพของลูกน้องมากขึ้น”
เห็นว่าช่วงนั้นเตชินท์ก็เอาอาหารที่ร้านไปแจกคนด้วย?
“ตอนนั้นเห็นคนลำบากกว่าเรามีเยอะ ในความรู้สึกว่าเราลำบากแต่ยังมีคนที่ลำบากกว่าเรา ผมขับรถผ่านหน้าบ้านก็เรียกให้หลิน ภรรยา ดูสิ เค้ามาแจกอาหารเราไปแจกบ้างมั้ยล่ะ เอาหัวปลาแซลมอนที่เรามี เราเอาไปแจก สงสารเค้า และแจกลูกน้องด้วย ทำให้เราได้แบ่งปัน เรามีความสุขที่เราให้เค้า ผมเห็นลุงคนนึงวิ่งมาหา เค้าเดินวน 2 รอบ พูดว่าไหนๆเค้าแจกตรงไหนๆ ผมก็บอกอยู่นี่ ผมไม่เคยเห็นคนวิ่งหาของขนาดนี้ สิ่งที่ผมสะท้อนใจมากคือเค้าพูดว่า เอาไว้ วันนี้ไอ้แสบได้กินข้าวแล้ว รู้เลยว่าเค้าคงไม่ได้กินเอง คงให้ลูกหรือหลานกิน”
มุมมองชีวิตเราเปลี่ยนขนาดไหน?
“เมื่อก่อน อินคัมเยอะ หาเงินด้วยตนเองก็จะมีความฟุ่มเฟือยอยู่ สองคนผัวเมียซื้อของ เสื้อผ้า ตั้งแต่เกิดเรื่อง เราเอาเสื้อผ้าเก่ามาวนใช้ จากใช้ของแบรนด์เนมก็เริ่มเปลี่ยนซื้อทองแทนมั้ย ช่วงเกิดวิกฤติปัญหาผมยอมรับว่าไม่มีเงินเดือนจ่ายลูกน้อง ผมต้องเอาสมบัติเก่าไปขาย แบรนด์เนมปล่อยยาก โดนตัดราคาเกือบครึ่ง เห็นสัจธรรมชีวิตเยอะขึ้น”
เห็นว่ามีผลต่อการเลือกโรงเรียนลูก?
“ใช่ครับ ผมนั่งคิดกับแฟน การเลี้ยงลูกถ้าเราให้เค้ามากๆ ตั้งแต่เป็นเด็ก โตขึ้นในอนาคตการใช้ชีวิตจะเริ่มยากขึ้นแล้ว ตอนนี้เด็กนานาชาติบางคน ป.4-5 บางคนถือแอร์เมสไปโรงเรียนกันแล้วนะ ผมเลยคุยกับแฟน เราเลี้ยงลูกไม่ต้องใช้อะไรขนาดนั้น เราอยากให้เค้ามีความสุขกับชีวิตมากกว่า”
ตั้งใจจะให้น้องคิรินเรียนแนวทางไหน?
“ให้เรียนอินเตอร์เพราะผมมีปมด้อยแม่เค้าเป็นเด็กอินเตอร์ สังคมเพื่อนเค้าคุยภาษาอังกฤษกันหมด เวลาเราไปนั่งด้วยผมก็นั่งอมลิ้นเพราะผมพูดกับเค้าไม่ได้ ฟังออกแต่พูดไม่ได้ เราอยากให้ลูกพูดได้แต่จะต้องไม่เป็นโรงเรียนอินเตอร์ที่มันโอเว่อร์เกินไป มีไปโรงเรียนๆนึงโอเค พ่อแม่บางคนใส่ชุดนอนมาเลย ชิลมาก บวกกับเราเป็นนักเรียนรุ่นที่ 2 จะได้ส่วนลด 20% ตลอดจบการศึกษา กลายเป็นว่าถูกทุกๆที่”
การมีทายาทคนที่สองจะลุยหรือพับโครงการไว้ก่อน?
“ก็อยากมีแต่มีคนเดียวก็ง่ายดี เราเป็นพ่อแม่เลี้ยงลูกกันเองไม่ได้มีพี่เลี้ยง ไม่ได้มีปู่ย่าคอยช่วยดู”
ช่วงเวลายากลำบากทำให้เรากับแฟนกลมเกลียวเข้าอกเข้าใจกันดี?
“ก็ตีกันอีกเพราะว่ามันเหมือนกับนับหนึ่งใหม่ในชีวิต กับการทำงานจะเห็นมุมความเครียดของคนสองคนมาเจอกัน จะมีคำพูดที่ใช้อารมณ์ในการคุยกันแต่ถามว่าทำไมไม่เป็นเรื่องใหญ่โต เวลามีปัญหาผมจะเดินออก พอใจเย็นลูกหลับเราก็จะมาคุยกัน เรารวมกันดีกว่า มีอะไรผิดพลาดม้าบอกป๊าตรงๆ ดีกว่าอย่าทำ ไม่ใช่คุยแบบบั่นทอนจิตใจ”.
June 27, 2020 at 06:30AM
https://ift.tt/3g6MXYT
"เตชินท์" เล่าวิกฤติโควิดถึงขั้นไม่มีเงินจ่าย "ลูกน้อง" - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2zlCrwM
Home To Blog
No comments:
Post a Comment